Review- Far Cry 6 Lost Between Worlds หลงทางเสียเวลา หลงซื้อมาอาจเสียใจ

เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
(จำเป็นต้องมีเกม Far Cry 6 ภาคหลักในการเล่น)
***เนื้อหาเสริมนี้ไม่รวมอยู่ในซีซั่นพาส อยากเล่นต้องจ่ายเพิ่ม***การทดลองเสี่ยงตายครั้งล่าสุดของค่าย ยูบิซอฟต์ ที่หยิบระบบเกมเพลย์สไตล์โร้กไลก์มาทดลองดัดแปลงสู่ซีรีส์ฟาร์คราย ดังนั้นมันจึงไม่เหมือนกับ DLC ตัวไหนๆที่คุณเคยสัมผัสและอาจไม่ถูกจริตโดนใจใครหลายๆคน

ส่วนเสริม “หลงในพหุภพ” (Lost Between Worlds) นี้ เมื่อกดซื้อแล้วเราสามารถเข้าเล่นมันได้ทันทีจากหน้าเมนูหลักของเกม Far Cry 6 ในลักษณะโหมดเดี่ยวที่แยกต่างหากออกมาจากโหมดแคมเปญ โดยเรื่องราวของมันก็มีอยู่ว่า ขณะที่ “แดนี่ โรฮาส” (Dani Rojas) ตัวเอกของเรากำลังนอนเล่นดูดาวชิลๆอยู่นั้น จู่ๆก็มีอุกกาบาตลึกลับร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เมื่อเข้าไปดูยังจุดตกเธอก็ได้พบกับวัตถุปริศนาหน้าตาประหลาดคล้ายยานอวกาศ ด้วยความตกใจในสิ่งที่เห็น แดนี่จึงเผลอทำปืนลั่นใส่เป็นเหตุให้ระบบกลไกป้องกันตัวของมันเริ่มทำงาน ดูดกลืนสิ่งต่างๆรอบข้างเข้าไปติดอยู่ในมิติพิศวง และหนทางเดียวในการพาตัวเองกลับออกไปนั่นคือเราต้องท่องเดินทางไปยังมิติต่างๆเพื่อเก็บรวบรวมเศษผลึกที่แตกหักมาซ่อมแซมให้ทุกสิ่งกลับคืนสู่สภาพเดิมตามคำบอกเล่าของ “เฟย์” (Fai) เสียงเอเลี่ยนผู้คอยชี้นำทาง ซึ่งแน่นอนว่าทุกประโยคที่ได้ยินและทุกข้อความภายในเกมที่ได้เห็นล้วนถูกแปลเป็น ภาษาไทย
อุปสรรคขวากหนามที่เราต้องเอาชนะฟันฝ่ามันไปให้ได้นั่นคือ โปรโตคอลกักกันของยาน ที่ผสานสภาพแวดล้อมของโลกกลืนเข้ากับเทคโนโลยีจากต่างดาว จำลองสร้างออกมาเป็นด่านชาเลนจ์รูปแบบต่างๆมากมาย มีทั้งอุปสรรคที่เป็นกับดักพัซเซิลแพลตฟอร์มเคลื่อนไหวขึ้นลงหรือกำแพงพ่นเปลวไฟ และอุปสรรคที่เป็นทหารยามคอยเฝ้าคุ้มกันพร้อมกำจัดผู้บุกรุกอย่างเราทันทีที่พบเห็น โดยวิธีในการกำจัดพวกมันเราต้องเลือกใช้กระสุนให้ตรงสีกับมัน เช่น หากเจอศัตรูสีแดงก็ยิงด้วยกระสุนสีแดง ซึ่งปืนทุกกระบอกเราสามารถกดปุ่มทิศทางเพื่อเปลี่ยนสีกระสุนได้ตลอดเวลา แต่พอเอาเข้าจริงๆลูกเล่นดังกล่าวมันก็ไม่ได้ชวนว้าวอะไรมากมายหรอกนะ เพียงแค่ทำให้เราต้องตั้งสติหยุดคิดสักนิดก่อนเหนี่ยวไกเท่านั้นเอง
บ้างก็เนรมิตเป็นดินแดนเขาวงกตซับซ้อนต้องคลำหาทางออก เดี๋ยวก็ให้เราดำผุดดำว่ายอยู่ใต้บาดาล เดี๋ยวให้สู้กันตอนกลางวันสว่างจ้า สักพักต้องหลบสายฟ้าที่ผ่าลงมายามค่ำคืน คือมีอะไรแปลกประหลาดมากมายให้เราได้ทำ ได้สู้ และได้ใช้หัวคิดแก้ไขหลากหลายดี แถมงานด้านวิชวลกราฟิกที่อิงรากฐานมาจากภาค 6 ก็ถ่ายทอดสิ่งต่างๆออกมาได้งดงามตามจินตนาการของผู้สร้าง โดยโลกมิติภายในเกมนี้จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันมากถึง 15 รูปแบบ ซึ่งใครอยากเห็นให้หมดเคลียร์ให้ครบทุกใบก็คงต้องใช้เวลาเล่นซ้ำหลายรอบหน่อยอะนะ
สำหรับโลกถัดไปที่จะได้ไปเยือน เราสามารถเป็นคนกำหนดเลือกเส้นทางการผจญภัยได้เองผ่านประตูพอร์ทัลต่างสี 2 บาน บานหนึ่งสีส้ม บานหนึ่งสีม่วง เปรียบเสมือนทางแยกขวา-ซ้ายที่ผู้เล่นจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง ซึ่งประตูแต่ละบานจะนำพาเราก้าวเข้าสู่โลกมิติลำดับต่อไปที่ไม่เหมือนกัน รวมถึงเรื่องราวบทสรุปฉากจบสุดท้ายก็จะแตกต่างกันออกไปด้วย ทั้งนี้เพื่อกันไม่ให้ผู้เล่นสับสนตัวเกมจึงมอบแผนที่ภาพรวมมาให้เราดูว่า โลกใบไหนที่เราเคยไปสำรวจมาแล้วบ้าง และเส้นทางไหนที่เรายังไม่เคยไป
ตามสูตรสำเร็จของเกมแนว Roguelike อาวุธเริ่มต้นที่เราได้รับจะถูกสุ่มมาไม่เหมือนกันในการเล่นแต่ละรอบ อาวุธที่อยู่ภายในกล่องสมบัติอาจเป็นได้ทั้งปืนสั้น ลูกซอง สไน ไรเฟิลจู่โจม กลเบา หรือร้อยนัด ไม่ว่าได้อาวุธชิ้นไหนมาคุณต้องพร้อมปรับตัวใช้มันให้ช่ำชองทุกกระบอกถ้าคิดอยากจะอยู่รอดไปจนตลอดรอดฝั่ง แต่เราก็พูดบิ๊วต์อารมณ์ให้มันฟังดูโอเวอร์น่ากลัวไปงั้นแหละเพราะความเป็นจริงแล้ว ปืนไหนๆก็ไม่ค่อยมีผลแตกต่างกันสักเท่าไหร่ขอแค่คุณแม่นหัวเท่านั้น ต่อให้ใช้ปืนพกถ้ายิงเฮดช็อตก็นัดเดียวจอดส่งศัตรูลงไปนอนได้เหมือนกัน
และแน่นอนตามธรรมเนียมของเกมแนว Roguelike หากเราเผลอพลาดตายสิ้นชีพลงเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะโดนศัตรูฆ่า ติดกับดัก กระโดดร่วงหน้าผาจากการบังคับสุดงุ่มง่าม ฟ้าผ่าไฟตกจนเครื่องคอนโซลดับ หรือแค่ง่วงนอนปิดเกมไปก่อนในระหว่างที่ยังเล่นค้างไว้ เมื่อเกิดใหม่หรือเปิดเกมขึ้นมาเช้าวันรุ่งขึ้นคุณจะต้องย้อนกลับไปเริ่มต้นเล่นมันใหม่ยังจุดสตาร์ทตอนที่พบกับเฟย์ครั้งแรกเสมอ แต่โชคดีที่เกมนี้มันไม่ได้โหดร้ายกับผู้เล่นมากนัก เพราะตามฉากจะมี แสงระยิบสีชมพู ให้ได้เก็บเพื่อใช้ฟื้นคืนชีพตัวละครตรงมิติล่าสุดที่เราตาย ไม่ต้องเสียเวลาเริ่มเล่นใหม่ทั้งหมด
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่หลายคนบ่นกันในเกมฟาร์ครายซิกส์ คงหนีไม่พ้นเรื่อง AI ของศัตรู ที่ดูล้าสมัยไม่ท้าทายเอาเสียเลย ซึ่งน่าเศร้าที่ส่วนเสริมตัวนี้พวกเขาไม่ได้พัฒนาปรับปรุงมันให้ดีขึ้นเลย ยังคงมึนยืนงงแข็งทื่อเป็นหุ่นยนต์ เพื่อนโดนยิงล้มลงต่อหน้าก็ยังเฉยชายืนประจำตำแหน่งทำกิจวัตรทุกอย่างเหมือนปกติ ไม่มีการสื่อสารสั่งแผนตีโอบไล่ต้อนผู้เล่นแต่อย่างใด เจอเราจังๆถึงยิงสวนพอหลบหน้าไปสักพักก็หยุดยืนนิ่งแบบเดิม ทั้งๆที่ขนาดรูปร่างกำยำอันห่อหุ้มด้วยเกล็ดคริสตัลของมันดูแล้วช่างน่ากลัวเกรงขาม แต่พอสู้จริงกลับรู้สึกเหมือนกำลังฟาร์มบอทโง่ๆอยู่อย่างนั้นแหละ มิได้ฉลาดทรงภูมิสมกับเป็นวิทยาการสุดล้ำจากต่างดาวเลยสักนิด ยิ่งเจอหน้าพวกมันบ่อยๆซ้ำๆมีแค่ตัวสีแดงกับตัวสีฟ้า มุกเดียวใช้ตลอดศกตั้งแต่ฉากต้นจนถึงฉากจบบอสใหญ่ จึงไม่น่าแปลกใจที่ใครมาจับเป็นต้องอ้าปากหาวกันทุกราย
ระยะเวลาการเล่นจบหนึ่งรอบจะไม่ได้ยาวมากนักประมาณ 3-4 ชั่วโมงก็จบแล้ว และเวลาการเคลียร์ในรอบต่อๆไปก็จะยิ่งสั้นลงไปอีกหากเราจดจำเส้นทางและตำแหน่งศัตรูได้ขึ้นใจ รวมถึงได้รับอุปกรณ์ใหม่ๆที่มาช่วยอำนวยความสะดวกอย่างตะขอเกี่ยวที่ใช้ปีนขึ้นในแนวดิ่งหรือระเบิดเพื่อเปิดเส้นทางลับ ทว่าน่าเศร้าที่ตัวละครของเราไม่ค่อยมีระบบอัปเกรดอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน พอสำรวจโลกมิติครบทุกรูปแบบตัวเกมก็หมดความท้าทายในทันที จากที่ตั้งใจอยากให้เราเล่นวนซ้ำมันไปเรื่อยๆไม่มีสิ้นสุด กลับกลายเป็นเล่นแค่รอบเดียวก็รู้สึกเบื่อแล้ว ถ้าวัตถุประสงค์หลักของ ยูบิซอฟต์ คือต้องการให้ผู้เล่นติดอยู่กับเกม Far Cry 6 ไปนานๆ เราว่าพวกเขาควรพิจารณาอัปเดตโหมด PvP บรรจุใส่เข้ามาแทนเสียมากกว่า
“จุดขายของเกมแนวโร้กไลก์ที่ทำให้มันเริ่มติดเทรนด์เป็นกระแสได้รับความนิยมในปัจจุบัน เราว่าหัวใจสำคัญมันอยู่ตรงระบบเกมเพลย์ที่ต้องเล่นแล้วสนุกเล่นแล้วติดหนึบ ทุกอย่างต้องพิถีพิถันใส่ใจใกล้เคียงกับคำว่าเพอร์เฟกต์ เพราะมิเช่นนั้นจะไม่สามารถดึงดูดคนให้อดทนเล่นวนซ้ำมันได้เป็นร้อยๆรอบ ซึ่งองค์ประกอบของเกมฟาร์ครายภาคล่าสุดนี้ทั้งด้านเกมเพลย์ การบังคับควบคุมเล็งยิง และความฉลาดของ AI มันยังคงห่างชั้นจากเกมยิงในอุดมคติอยู่ไกลโข ทั้งไม่เอื้ออำนวยและไม่ดึงดูดชวนหลงใหลมากพอ นี่เราไม่ได้กำลังต่อว่าหรือด้อยค่าความพยายามฉีกกรอบอยากทดลองอะไรใหม่ๆของทีมงานนะ แต่ในเมื่อผลการทดลองมันออกมาล้มเหลวผิดพลาด เป็นเราคงอายไม่กล้าชาร์จเงินเรียกเก็บตังค์จากใครๆ”