นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า ขณะนี้บรรยากาศในถนนข้าวสาร นักท่องเที่ยวบางตา ทำให้รายได้ของผู้ประกอบการในระหว่างสัปดาห์ลดลงจากปกติกว่า 40% ส่วนวันศุกร์ปลายสัปดาห์และวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ รายได้ยังหดตัวจากปกติกว่า 20% ปัจจัยที่ทำให้บรรยากาศการค้าขายซบเซาหากเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปี 66 เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของการท่องเที่ยวยุโรปและโลว์ซีซั่นปีนี้มีนักท่องเที่ยวน้อยกว่าปี 62 ปัจจัยจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจยุโรป รวมถึงเป็นช่วงซัมเมอร์ของยุโรปทำให้นักท่องเที่ยวไม่เลือกเดินทาง ขณะที่คนไทยมีการระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจากยังมีความกังวลการจัดตั้งรัฐบาลเพราะยังไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล
โดยวันธรรมดายังเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น 80% ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวยุโรป และคนไทย 20% ส่วนวันศุกร์-เสาร์ จะเป็นคนไทยนักท่องเที่ยวต่างชาติคคิดเป็น 60% ต่างชาติ 40% สำหรับการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อคนลดลงและอัตราการเข้าพักแรมสั้นลง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 บาทคนต่อวัน คาดว่ามีสะพัดเฉลี่ย 20 ล้านต่อวันหรือ 600 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งรวมทั้งค่ากิน ที่พักแล้วถือว่าต่ำมาก คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ขณะที่อัตราการเข้าพักในพื้นที่ต่ำลง โดยพบว่าอัตราการจองห้องพักต่ำลงกว่าช่วงปกติก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีเพียง 40-50% เท่านั้น ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 66 ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวยุโรปเดินทางมาท่องเที่ยวที่ข้าวสารเพิ่มมากขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากนี้ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวยุโรป 70% ส่วนอีก 30% เป็นนักท่องเที่ยวเอเชีย แต่ตตอนนี้ยุโรปมาน้อย เอเชียก็ไม่สามารถออกเดินทางได้ในบางประเทศเนื่องด้วยมาตรการควบคุมโควิด-19 จึงทำให้นักท่องเที่ยวบางตา ทั้งนี้ผู้ประกอบการถนนข้าวสารคาดการณ์ว่าหากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยทั้งปีได้ 25 ล้านคนตามเป้าหมายที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์ไว้ ข้าวสารจะได้รับอานิสงส์จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทันที นักท่องเที่ยวอาจจะได้พักที่นี่แต่มาเที่ยวสังสรรค์ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวที่อื่น